วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561

แนะนำเทศกาลประจำปีของเกาหลี

การเดินทางมาเที่ยวเกาหลี ส่วนใหญ่จะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเกาะนามิ โซลทาวเวอร์ หรือไปช้อปปิ้งสินค้า เครื่องสำอางค์ต่างๆ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เกาหลียังมีเทศกาลต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งอยากแนะนำให้ลองไปเที่ยวกัน จะมีเทศกาลอะไรบ้าง ลองดูกัน

1. เทศกาลเครื่องดื่มและขนมพื้นเมืองเคียงจู จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี ที่ศาลาว่าการเมืองเคียงจู เป็นการทำขนมพื้นเมืองต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำจากข้าวและเครื่องดื่มหลายชนิด นำมาแสดงในงานและมีจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อตามอัธยาศัย

ทัวร์เกาหลี เทศกาลขนม


2. เทศกาลวัฒนธรรมพื้นบ้านอินชาดง จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ที่ถนนอินชาดงในกรุงโซล เป็นการนำศิลปะพื้นบ้านของเกาหลีมาแสดงในถนนศิลปะเส้นนี้ เช่น ระบำหน้ากากที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงาม และที่สำคัญมีการแสดงการแข่งขันการทำอาหารหลากหลายชนิดที่ตื่นตาตื่นใจ ขอบอกทุกคนไม่ควรพลาดเทศกาลเด็ดๆ แบบนี้




3. เทศกาลชินโดยองดึง หรือเทศกาลน้ำทะเลแยก จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปีที่เมืองชินโด ระหว่างเกาะชินโดและเกาะโมโด ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกตอนใต้ในจังหวัดซอลลานัมโด ซึ่งเป็นช่วงเวลาของน้ำทะเลที่ลดระดับลง ทำให้ทะเลแยกจากกันเกิดเป็นถนนยาวถึง 2.8 กิโลเมตร กว้างราว 40 เมตร เชื่อมระหว่างเกาะทั้งสอง กลายเป็นถนนคนเดินซึ่งเดินผ่านไปยังเกาะทั้งสองได้ จึงถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่หาดูได้ยาก นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีไม่ควรพลาดภายในบริเวณถนนคนเดินยังมีการแสดงพื้นบ้านและมีขบวนพาเหรด พร้อมทั้งกิจกรรมสนุกๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าร่วมในทุกกิจกรรม




4. เทศกาลหมักโคลนโพเรียง จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ที่ชายหาดแดชอนเมืองโพเรียงทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งเทศกาลที่การท่องเที่ยวเกาหลีได้ประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับโคลนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุเจอเมเนียน ซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังได้หลายชนิด จึงได้มีการจัดกิจกรรมเล่นโคลนขึ้นที่ชายหาด นอกจากนี้ ยังมีบริการนวดตัวด้วยโคลนบริสุทธิ์จากทะเลให้กับนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีอีกด้วย



5. เทศกาลระบำหน้ากากอันดง จัดขึ้นในเดือนกันยายนที่หมู่บ้านฮาโฮเมืองอันดง ทางตะวันออกในจังหวัดเคียงชางบุกโต เป็นอีกหนึ่งเทศกาลดั้งเดิมของชาวเกาหลี เป็นการแสดงระบำหน้ากากกลางแจ้งที่แปลกตาหาดูได้ไม่ง่ายเลย และยังเพิ่มสีสันด้วยระบำจากคณะนาฏศิลป์นานาชาติทั้งในเอเชียและยุโรป ให้เราได้เพลิดเพลินตลอดทั้งเทศกาล



6. เทศกาลทำกิมจิ จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ที่เมืองกวางจูทางตอนใต้ของประเทศเกาหลี ในเทศกาลจะมีทั้งบรรดาพ่อบ้านและแม่บ้านทั้งหลายจากทั่วประเทศเข้ามาแข่งขันการทำกิมจิให้ชม ภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์กิมจิหลายรูปแบบให้เลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้าน พร้อมทั้งมีการแสดงนิทรรศการความเป็นมาของกิมจิและยังเปิดโอกาสให้คณะทัวร์เกาหลีได้ร่วมทดลองทำกิมจิด้วยตัวเองอีกด้วย



7. เทศกาลตกปลาน้ำแข็ง จัดขึ้นในเดือนมกราคม ที่ทะเลสาบโซยัง (Soyangเป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่แสนจะคึกคัก โดยแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง จะถูกเจาะรูเพื่อหย่อนเบ็ดลงไปตกปลา มองลงไปในรูข้างล่างจะเห็นสายน้ำไหลอยู่ด้านล่างสวยงามมาก ผู้ที่มาเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นเลื่อนหิมะสกี,เตะฟุตบอลน้ำแข็ง และนิทรรศการปติมากรรมน้ำแข็ง นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มไว้บริการอีกด้วย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนและผจญภัยที่สนุกสนานตื่นเต้นเพลิดเพลินที่มีอยู่ในเทศกาลนี้




เทศกาลต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ไม่เพียงแต่มีไว้เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังมีไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นมาของคนเกาหลีอย่างแท้จริง เรามั่นใจว่ายังไงก็ต้องมีสักหนึ่งเทศกาลที่โดนใจคุณๆ อย่างแน่นอน


cr. chilloutkorea.com , korea.net , travel.mthai.com , pinterest.com , rove.me , benweller.photoshelter.com

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561

เที่ยวสวนสนุกเอเวอร์แลนด์กับทัวร์เกาหลี


สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (Everland) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางแจ้งท่ามกลางหุบเขาของเมืองยงอิน (Yongin) เป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ดีสนีย์แลนด์เกาหลี อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทซัมซุง (Samsung) ซึ่งเป็นเจ้าของ และถูกจัดอันดับโดย Forbes ให้เป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลก เมื่อปี ..2005 ทำให้ในแต่ละปีมีทัวร์เกาหลีเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นดินแดนในฝันของทุกเพศทุกวัย

สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ (cr: lovelysmiletour.com)

ในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ มีอะไรให้เที่ยวมากมาย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ รถไฟเหาะรางไม้ ซึ่งมีอยู่ในโลกเพียง 3-4 แห่งเท่านั้น ส่วนในเอเชียจะมีที่เกาหลีใต้เท่านั้น และมีสัตว์ที่หาดูยาก คือ ไลเกอร์ ภายในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ถูกแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก แต่ละโซนจะมีจุดเด่นให้เลือกเล่นกันตามใจชอบ มีทั้งเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุด ไปจนถึงสวนสัตว์ซาฟารีและสวนดอกไม้

โซนที่ 1 Global Fair เป็นโซนแรกที่เข้ามาก็พบกับการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่เป็นรูปแบบของการผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกกับตะวันตกเข้ากันได้เป็นอย่างดี เช่น เรอเนสซองส์ เมโสโปเตเมีย ไปจนถึงแบบโมเดิร์นที่มีสีสีนสวยงามเหมาะสำหรับครอบครัวที่พาเด็กๆ มาเที่ยว คณะทัวร์เกาหลีไม่พลาดที่จะหยุดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก สำหรับโซนนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม และร้านขายของที่ระลึกให้ช็อปกันอย่างจุใจ

เครื่องเล่นในโซน Global Fair  (cr: teamparkreview.com)

ร้านขายของที่ระลึก

โซนที่ 2 Zootopia เป็นโซนสวนสัตว์ที่ต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้า เป็นกระเช้าสำหรับนั่ง 4 คน สามารถหย่อนขาได้ สามารถชื่นชมบรรยากาศของสองข้างทางระหว่างหุบเขาได้ เมื่อเข้ามาถึงภายในจะเห็นสัตว์นานาชนิด และที่เป็นจุดขายของโซนนี้ คือ เสือไลเกอร์ (Liger) ที่เกิดขึ้นจากการผสมระหว่างเสือตัวเมียกับสิงโตตัวผู้กลายเป็นไลเกอร์ที่มีที่นี่ที่เดียว นอกจากนี้ ยังมีการแสดงของสัตว์ต่างๆ มากมายโดยเฉพาะหมีที่ฟังภาษาเกาหลีรู้เรื่อง แสดงได้น่ารักมาก

นั่งกระเช้า
เสือไลเกอร์ (cr: ligerfacts.org)
ดูหมีที่ฟังภาษาเกาหลีรู้เรื่อง (cr: lovelysmiletour.com)

โซนที่ 3 เป็นโซนไฮไลท์ของเอเวอร์แลนด์แห่งนี้เพราะมีเครื่องเล่น รถไฟเหาะ T Express ที่เป็นรถไฟเหาะรางไม้ที่สูงที่สุดในโลก มีความชันถึง 77 องศา วิ่งด้วยความเร็วสูง 104 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทาง 56 เมตร ใช้เวลาเพียง 3-5 นาที ถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดก็ว่าได้ ใครที่ชอบความตื่นเต้นต้องลองนั่งดู แต่จะต้องเสียเวลาต่อคิวอย่างน้อย 1 ชั่วโมง  สำหรับผู้ที่มากับทัวร์เกาหลี แนะนำให้รีบมาโซนนี้ก่อนเลย


รถไฟเหาะ T Express (cr: trazy.com)

โซนที่ 4 Magic Land เป็นดินแดนที่ตกแต่งตามเทพนิยายแฟนตาซีได้อย่างสวยงาม เป็นดินแดนในฝันของเด็กๆ สอดแทรกเนื้อหาสอนใจผ่านตัวละครที่เป็นสัตว์มากมายหลายชนิด โซนนี้เด็กๆ จะชื่นชอบเพราะมีเครื่องเล่นเบาๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่พาเด็กๆ มาเที่ยว


โซนเมจิคแลนด์ (cr: haitokuraudo.blogspot.com)

โซนที่ 5 American Adventure โซนนี้จะมีเสียงดนตรีประกอบเป็นจังหวะสนุกสนาน ส่วนเครื่องเล่นจะเป็นแบบผาดโผนมีทั้งเรือเหาะ Columbus Adventures รถไฟเหาะ Rolling X Train และเครื่องเล่นอีกมากมาย


เครื่องหวาดเสียว ต้องโซน American Adventure

ท่านที่ได้ไปทัวร์เกาหลี สามารถเลือกโซนที่ถูกใจในแต่ละโซน เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลินคุ้มค่ากับการที่ได้มาทัวร์เกาหลี หรือท่านใดที่อยู่เล่นจนถึงค่ำๆ จะมีการแสดง แสง สี เสียง ประกอบดนตรี Moonlight Parade และ Dream Laciun สวยงามตระการตามากมาย การแสดงจะมีการจัดสวนดอกไม้ในพื้นที่ต่างๆ หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เดือนเมษายน จะเป็นดอกทิวลิปและดอกซากุระ เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน จะเป็นดอกกุหลาบและดอกลิลลี่ เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม จะเป็นดอกกุหลาบและดอกเบญจมาศ ท้ายที่สุด มาเที่ยวในช่วงเดือนไหน แนะนำให้เช็คสภาพอากาศมาด้วย เพราะถ้ามาแล้วเจอฝน อาจจะอดเล่นเครื่องเล่นหลายๆ อย่างกันเลยทีเดียว


ถ่ายรูปสวยๆ ในสวนดอกไม้ (cr: pinterest.com)
ชมสวนดอกไม้ตามฤดูกาล

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

ทัวร์เกาหลีอย่างไรให้สนุก

“อันยองฮาเซโย” ประโยคแรกในการทักทายของคนเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่มีคนไทยเที่ยวมากที่สุด กลายเป็นค่านิยมของคนไทยทุกเพศทุกวัยที่ใฝ่ฝันอยากจะไป ทุกครั้งที่มีการไปเกาหลี ทุกท่านก็สามารถเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน หากท่านได้มีการเตรียมตัวก่อนไปควรจะหาข้อมูลไว้บ้างก็จะดี จึงขอเสนอข้อมูลต่อไปนี้เพื่อเป็นแนวทางในการเที่ยวเกาหลีแบบชิลๆ

เตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี
เที่ยวเกาหลี (Cr. ceta.co.th)


1. มีเวลาช็อปปิ้งอย่างจุใจ คนไทยเกินกว่าครึ่งที่มาทัวร์เกาหลี จะต้องมีรายการฝากซื้อของ ทั้งของที่ต้องใช้เอง และของที่เพื่อนๆ ฝากซื้อ ดังนั้น การบริหารเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าได้ช็อปปิ้งที่ตลาดเมียงดง จะมีร้านค้ามากมายให้เราเลือกซื้อ ที่นี่จะมีคนไทยมาช็อปปิ้งกันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ร้านขายเครื่องสำอางค์และร้านค้าทั่วๆ ไปจะมีพนักงานพูดไทยได้แทบทุกร้าน ส่งผลให้การเลือกซื้อของของนักท่องเที่ยวง่ายขึ้น โดยเฉพาะคุณผู้หญิงเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากในการเลือกซื้อสินค้า ยิ่งถ้าเลือกทัวร์เกาหลีในช่วงที่มีการลดราคา ซื้อ 1 แถม 1 หรือมีของแถมมากๆ ถือว่าของแถมที่คุ้มค่าในการมาเที่ยวครั้งนั้นเลยที่เดียว เรื่องของแถมใครๆ ก็ชอบ เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้คุณได้ของแถมเยอะก็คือ เมื่อเลือกซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้วจ่ายเงินเสร็จให้พูดกับพนักงานว่า “อีโปยโย” แปลว่า สวย เราก็จะได้ของแถมมากขึ้นกว่าเดิม


shopping ที่เมียงดง เกาหลี
ทัวรเกาหลีพาช็อปปิ้งที่เมียงดง

2. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม หมายถึง ใครชอบช่วงฤดูไหนก็ไปให้ถูกฤดู เช่น
  • ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อากาศช่วงนี้จะเย็นสบาย ดอกไม้จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งประเทศทำให้มีสีสันสวยงาม จึงเป็นช่วงที่มีทัวร์เกาหลีเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ใครที่ชอบดอกไม้สามารถเลือกช่วงเวลานี้เพื่อเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก
เที่ยวเกาหลีซากุระ
ฤดูใบไม้ผลิที่เกาหลี (Cr: visitkorea.or.kr)

  • ฤดูร้อน (Summer) เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงต้นเดือนกันยายน เป็นช่วงที่มีอากาศร้อนและมีความชื้นสูง มีฝนตกตลอดในช่วงนี้และอาจเจอมรสุมบ้างในบางครั้ง ก่อนไปแนะนำให้ตรวจเช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนออกเดินทาง สำหรับใครที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องเที่ยวฤดูร้อนเพราะเป็นช่วงที่ทัวร์เกาหลีราคาถูกก็เที่ยวได้ไม่ลำบาก เตรียมหมวก ร่ม เสื้อกันฝนให้พร้อม ก็สามารถเที่ยวได้แล้ว
ซัมเมอร์เซลล์ที่เกาหลี
ช่วงหน้าร้อน หรือซัมเมอร์ที่เกาหลี (Cr: bookmundi.com)

  • ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เรื่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมีทั้งสีแดง สีส้ม สีเหลือง ทำให้ประเทศเกาหลีทั้งประเทศดูมีสีสันสดใสสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน ฤดูนี้ตอบโจทย์นักเดินทางที่ชอบขึ้นเขาลงเขาจะได้บรรยากาศชิลๆ ไม่เหนื่อย เป็นช่วงที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยวก็ว่าได้
เที่ยวเกาหลีใบไม้เปลี่ยนสี
เที่ยวเกาหลีช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (Cr: visitkorea.or.kr)

  • ฤดูหนาว (Winter) เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม อากาศหนาวเย็นมาก บางแห่งมีหิมะตก เป็นช่วงที่คนไทยรอคอยเพื่อที่จะได้ซื้อทัวร์เกาหลีไปดูหิมะ เล่นสกี และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในลานสกี หลายท่านเลือกที่จะไปเจอในช่วงปีใหม่ เทศกาลคริสต์มาส เพราะสถานที่ช็อปปิ้งต่างๆ คึกคักมาก มีการลดราคาสินค้ามากมาย แบบนี้จะพลาดกันได้อย่างไร มาเที่ยวช่วงอากาศหนาวเย็นอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะ เตรียมยาประจำตัวไปให้พร้อม หลังจากได้ทราบฤดูกาลต่างๆ ของประเทศเกาหลีแล้ว ท่านที่ชื่นชอบฤดูไหนก็ควรตรวจสภาพอากาศให้ดีเพื่อความสนุกในการเดินทาง
ทัวร์เกาหลีสกีรีสอร์ท
เกาหลีช่วงหน้าหนาว (Cr: myseoulsearching.com)

3. ความพร้อมในการเดินทาง นั่นคือ
  • ร่างกายต้องพร้อมที่จะต้องเดินทางไกล หากมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ แนะนำให้ตรวจสุขภาพให้เรียบร้อย
  • กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้า ของใช้ต้องจัดให้ถูกต้องตรงตามฤดูกาล
  • ตรียมแลกเงินวอนให้เพียงพอกับการใช้จ่ายซื้อของกิน ซื้อของฝาก ซื้อของที่ระลึก เช่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของเกาหลี Etude, Skinfood, Lotree, The Face Shop, Missha เครื่องประดับต่างๆ เสื้อผ้า โสมบำรุงร่างกายชนิดต่างๆ กิมจิ สาหร่ายอบกรอบ สตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ พวงกุญแจ ตะเกียบ และช้อนซ้อม เป็นต้น ทั้งนี้ เงินวอนสามารถแลกได้ที่เคาเตอร์ธนาคาร หรือแนะนำแลกที่ Superrich ได้เลย
เที่ยวทัวร์เกาหลีใช้เงินวอน
เงินวอนสำหรับใช้ที่เกาหลี

  • หากใครไปเกาหลีครั้งแรก แนะนำเตรียมเอกสารรับรองงาน และการเงินไปเผื่อ เมื่อ ตม. สอบถาม จะได้แสดงให้ ตม. ดูได้ พร้อมทั้งศึกษาโปรแกรมเที่ยวให้เรียบร้อย และเตรียมข้อมูลสายการบิน และข้อมูลโรงแรมให้พร้อม
เตรียมตัวไปทัวร์เกาหลี ให้ผ่าน ตม
เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ก่อนไปทัวร์เกาหลี


ทุกอย่างเตรียมพร้อมแค่นี้ก็เที่ยวได้สนุกแล้ว ถ้าจะให้สนุกมากขึ้นควรชวนญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ไปทัวร์เกาหลีด้วยกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆ ทุกท่านที่กำลังจะเดินทางไปเกาหลีคงได้ประโยชน์จากการแนะนำไม่มากก็น้อย ขอให้ทุกท่านไปเที่ยวกันอย่างสนุกและมีความสุข เก็บความทรงจำดีๆ กลับมาเมืองไทยกันทุกท่าน และที่สำคัญมากๆ เลยสำหรับนักเดินทางก็คือ อย่าเผลอทำพาสปอร์ตหาย ไม่งั้นจะหมดสนุกอย่างแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ทัวร์เกาหลีแนะนำ 2 วัดที่ต้องไป

ประเทศเกาหลีใต้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง สถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ เที่ยวแบบค้นคว้าศึกษาทางประวัติศาตร์ หรือไม่ก็ไปล่องเรือ แต่ถ้าเป็นสุภาพสตรีจุดประสงค์ใหญ่ คือ การได้มาช็อปปิ้ง หรือเป็นผู้สูงวัยก็จะไปไหว้พระตามวัดต่างๆ และที่เกาหลีมีวัดอยู่ 2 แห่ง ที่อาจจะยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสนใจมากนัก แต่คนเกาหลีนับถือมาก ลองตามมาดูกัน

1.วัดมาก๊กซา (Magoksa Temple) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ส่วนกลางของเกาหลีใต้ เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมแม่น้ำ แทกึก สร้างขึ้นเมื่อ ..643 โดย Jajan ซึ่งเป็นพระสงค์ในสมัยอาณาจักรซิลล่า เป็นการรวบรวมเอาสถาปัตยกรรมผสมผสานหลายอาณาจักรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นวัดที่ทัวร์เกาหลีให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จัก ภายในวัดนี้มีความเก่าแก่และสวยงาม จึงทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังยื่นเรื่องขอจากยูเนสโก้เพื่อให้เป็นมรดกโลก


วัดมาก๊กซา


บรรยากาศภายในวัด

มาถึงวัดระหว่างเดินเข้าไปภายในวัดจะได้ยินเสียงสวดมนต์ ตรงสะพานที่มีโคมไฟติดตลอดทางเพื่อเดินเข้าไปในวัด คนที่นี่เชื่อกันว่า การเดินข้ามสะพานโคมไฟ คือ การเดินจากโลกมนุษย์เข้าไปสู่สรวงสวรรค์ สองข้างทางจะมีภาพการ์ตูนรูปเทพเจ้าต่างๆ ระหว่างเดินข้ามสะพานให้ทุกท่านตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้า ส่วนใต้สะพานจะมีรูปปั้นเต่า 2 ตัวที่เป็นสัญลักษณ์อายุยืนยาว นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีสามารถโยนเหรียญลงไปให้โดนตัวเต่าแล้วอธิษฐานให้อายุยืนยาว จะโยนใส่ตัวไหนก็ได้ 


สะพานโคมไฟ

จากนั้น เดินขึ้นเขาเพื่อไปชมป้อมปราการที่มีชื่อว่า คงซานซอง (Gongsanseong Fortress) ซึ่งอยู่บนเขาริมฝั่งแม่น้ำคึมกัง เมืองคงจู และมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า อินจึงซง (Unjinseong) แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นกำแพงดิน และส่วนที่เป็นกำแพงหินภายในบริเวณป้อมปราการมีระตำหนัก สระน้ำ และอุทยาน หลายท่านอาจจะรู้จักป้อมปราการแห่งนี้จากภาพยนตร์ เพราะเคยใช้เป็นฉากหลังให้กับภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เกาหลีมาแล้วหลายเรื่อง ความเป็นอมตะของป้อมปราการจึงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก


ป้อมคงซานซอง

2.วัดซันบังกันซา (Sanbanggulsa Temple) ตั้งอยู่บนเขาซันบัง ที่เกาะเซจูและอยู่ไม่ไกลจากวัดโบมุนซา วัดนี้เป็นเป็นวัดอันดับต้นๆ ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ คณะทัวร์เกาหลีที่มาเที่ยวที่นี่ เดินขึ้นไปยังวัดได้ใช้เวลา 10-15 นาที ระหว่างการเดินขึ้นไปจะได้ยินเสียงสวดมนต์ตลอดทาง ด้านหลังของวัดจะเห็นภูเขารูปทรงกลมที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกเกิดภูเขาไฟระเบิดมีลาวาไหลออกมาเกิดการแข็งตัวของลาวาเป็นริ้วรอนภูเขาดูแปลกตา บนวัดจะเห็นพระสังกระจายสีขาว นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีต้องการขอพรให้ใช้มือขวาไปลูบที่ท้องแล้วกำมาใส่กระเป๋าเหมือนเอาเงินเอาทองกลับไปด้วย ส่วนด้านข้างจะเป็นเจ้าแม่กวนอิม สำหรับคนที่นี่ที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม จะไม่ห้ามกินเนื้อวัวเพราะถือว่ากินเนื้อวัวแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง 


วัดซันบังกันซา

ภูเขาด้านหลังวัด

ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือ พระใหญ่ที่หล่อด้วยทองสำริดมีหม้อยาวางไว้ที่ฝ่ามือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาสุขภาพ นักท่องเที่ยวส่วนมากมาของพรให้สุขภาพแข็งแรงมีอายุยืนยาว ขอพรเสร็จให้ไปหมุนระฆัง เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป รับแต่สิ่งดีๆ เข้ามา ซึ่งมีทั้งหมด 84 ลูก ที่ตัวระฆังจะมีบทสวดมนต์เขียนไว้รอบระฆัง การทำบุญโดยการซื้อข้าวสารเขียนชื่อแล้วถวายองค์พระ

พระใหญ่ทองสำริด

นอกจากนี้ หากเดินทางมาถึงเกาะเซจูแล้ว แนะนำให้แวะไปที่ ไร่ชาเขียว O SULLOC เป็นไร่ชาเขียวที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อที่สุดของเกาหลี นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีที่มาเที่ยวเกาะเซจูต้องไม่พลาดมาที่นี่เพื่อรับประทานไอศครีมรสชาเขียวและขนมหวานที่ทำมาจากชาเขียว รวมไปถึงเครื่องดื่มอื่นๆ เนื่องจากชาจากไร่ O SULLOC มีคุณภาพสูงจึงมีรสขมนิดๆ แต่มีกลิ่นหอมจึงไม่เป็นอุปสรรคในการรับประทานของทุกท่าน อย่าลืมแวะร้านขายใบชาระดับพรีเมี่ยมที่มีชามากมายหลายชนิด ตอบโจทย์สำหรับคนชอบดื่มชาโดยเฉพาะ เพราะที่นี่เป็นไร่ชาเขียวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะเซจู ท่านใดที่ต้องการหาของฝากให้กับผู้ใหญ่ ขาเขียวจากที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ผิดหวังแน่นอน

ไร่ชาเขียว O SULLOC

ไร่ชาเขียว O SULLOC


ไอศกรีมชาเขียว และขนมโรลชาเขียว

Cr. tour.gongju.go.kr , 
res.heraldm.com , tripadvisor.com , i.imgur.com