วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ทัวร์กัมพูชาพาสักการะ องค์เจ๊กองค์จอม

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศกัมพูชา นอกจากนครวัดและนครธมแล้ว ที่เมืองเสียมเรียบยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวทัวร์กัมพูชานิยมมากราบไหว้สักการะและขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล คือ องค์เจ๊กองค์จอม ซึ่งอยู่ที่เมืองเสียมเรียบ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2


องค์เจ๊กองค์จอม


องค์เจ๊กองค์จอม เป็นพระพุทธรูปสององค์พี่น้องกัน มีประวัติศาสตร์เล่ากันมาว่า องค์เจ๊กเป็นพี่ องค์จอมเป็นน้อง ทั้งคู่เป็นสุภาพสตรี มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง อยู่มาวันหนึ่งหลังจากไปทำบุญ พอกลับมาบ้านนอนหลับไปเฉยๆ ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย บิดามารดาเสียใจมากและอาลัยอาวรณ์ลูกสาวทั้งสองที่จากไปโดยมิได้สั่งเสีย ทั้งบิดามารดาจึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมาสององค์ตามชื่อลูกสาว และได้ตั้งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองประจำเมืองเสียมเรียบ มีคณะทัวร์กัมพูชาโดยเฉพาะคู่รักที่กำลังจะแต่งงานจำนวนมากนิยมมากกราบไหว้ขอพร ต่อมาจึงได้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปรียบเสมือนศาลหลักเมืองของเมืองเสียมเรียบ


เดินทางมาถึงบริเวณศาลองค์เจ๊กองค์จอม

ทางเดินเข้าด้านหน้าศาลองค์เจ๊กองค์จอม

บริเวณด้านหน้าศาล


วิธีการขอพร ก่อนที่จะเข้าไปสักการะ ต้องซื้อดอกไม้ ธูป เทียน ชุดละ 40 บาท ดอกไม้ที่บูชาจะเป็นดอกบัว ก่อนเข้าไปในศาลควรถอดรองเท้าไว้ที่หน้าศาล โดยหันปลายเท้าออกหน้าศาล เป็นเคล็ดลับในการขอพร แล้วค่อยเข้าไปอธิษฐานจิตขอพรต่อองค์เจ๊กองค์ขอม แล้วตักน้ำมนต์ไปลูบที่รูปปั้นทั้งสององค์เพื่อเป็นสิริมงคล


ดอกบัวสำหรับกราบไหว้

สักการะองค์เจ๊กองค์จอม

องค์เจ๊กองค์จอม เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเสียมเรียบมาช้านาน มีผู้มาสักการะมากมายโดยเฉพาะกลุ่มทัวร์กัมพูชามากันไม่ขาดสาย ท่านที่ต้องการมาบูชา แนะนำลองหาทริปทัวร์กัมพูชาที่มีโปรแกรมนำท่านไปสักการะองค์เจ๊กองค์จอม เพื่อเป็นการไหว้พระทำบุญแล้วท่านจะรู้สึกอิ่มบุญไปตามๆ กัน 

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2560

5 สถานที่น่าเที่ยวสำหรับทัวร์ตุรกี

ถ้าพูดถึงเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านอารยะธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม คงหนีไม่พ้น ประเทศตุรกีดินแดนสองทวีป ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทัวร์ตุรกีนิยมไปเที่ยว ขอแนะนำ 5 สถานที่ ดังนี้

1. สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) หนึ่งในสุเหร่าสำคัญของประเทศตุรกีที่ทางทัวร์ตุรกีจะต้องพาไป สุเหร่าสีน้ำเงินอยู่ที่เมืองอิสตันบลู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาที่มีความสวยงาม ชื่อของสุเหร่าแห่งนี้ได้มาจากการปูกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินตลอดแนวฝาผนังด้านใน ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ในปี ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี

สุเหร่าสีน้ำเงิน


2. ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี ค.ศ.1988 อยู่ที่เมืองปามุคคาเล่ เป็นดินแดนที่มีน้ำพุเกลือร้อนที่สวยงามมาก ปราสาทปุยฝ้ายเกิดจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ไหลรวมกันเป็นชั้นๆ และเกิดการแข็งตัวของแคลเซียม ทำให้เกิดเป็นชั้นหินสีขาวเหมือนหิมะเป็นแนวยาว แนวชิ้นหินเกิดเป็นทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆ สวยงามมาก

ปราสาทปุยฝ้าย

3. นครใต้ดิน (Underground City) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมืองใต้ดินมีอยู่หลายแห่งในตุรกี ไกด์ทัวร์ตุรกีเล่าให้ฟังว่า ในสมัยก่อน นครใต้ดินเป็นที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยจากการทำลายร้างของชาวโรมัน ซึ่งในยุคนั้น ชาวโรมันต้องการทำลายศาสนาคริสต์ นครใต้ดินจะมีหลายความลึกถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นจะทำเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องครัว บ่อน้ำ ห้องโถง โบสถ์ เป็นต้น

นครใต้ดิน

4. บอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกีย อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญสำหรับใครที่มาเที่ยวตุรกี การขึ้นบอลลูนชมวิวแนวหุบเขาอันสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย ปกติทางทัวร์ตุรกีจะพาไปขึ้นตอนตีห้าครึ่ง ค่าใช้จ่ายท่านละ 200 USD จะได้นั่งบอลลูนชมวิวประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ บอลลูนจะขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ ด้วย

ขึ้นบอลลูน

5. หมู่บ้านพื้นเมือง (Local Cave House) เป็นหมู่บ้านชาวพื้นเมืองคัปปาโดเกีย หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า บ้านของมนุษย์ถ้ำ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา เมื่อเดินทางไปถึง ชาวบ้านจะทำการมอบชา หรือกาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงมิตรภาพที่ดีต่อนักท่องเที่ยวหรือเพื่อนใหม่


หมู่บ้านพื้นเมือง

สำหรับประเทศตุรกีนั้น ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ด้วยประเทศที่มีขนาดใหญ่ การเดินทางไปเที่ยวแต่ละที่จึงค่อนข้างใช้เวลานาน บางครั้งอาจต้องอาศัยการบินภายในประเทศ ดังนั้น หากใครจะไปเที่ยวทัวร์ตุรกีแล้ว ลองศึกษาสถานที่ที่สนใจ จะได้เที่ยวได้อย่างคุ้มค่าและประทับใจ

Credit : haseki-sultan.com , evacation.org , cappadociaturkey.net , boldtravel.com , heryerdentatil.com

วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ทัวร์มาเก๊าแนะนำโบราณสถานน่าเที่ยว

มาเก๊า เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องจากเดินทางสะดวก ค่าใช้จ่ายน้อย ไม่ต้องขอวีซ่า มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย มีอาหารที่น่าชวนลิ้มลอง สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายที่ อีกทั้ง ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านการวางฮวงจุ้ย รวมทั้งยังเป็นเมืองสำหรับคนที่ชอบมาเล่นคาสิโนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มาเก๊ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมโบราณที่น่าสนใจอยากแนะนำให้ไปเยี่ยมชมกัน โดยเฉพาะไฮไลท์ของทัวร์มาเก๊า มีอะไรบ้างตามมาดูกัน

1. ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St.Paul’s) คือ ด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์ เดอิ (Church of Mater Dei) โรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกในเอเชียตะวันออก ที่ยังเหลืออยู่หลังจากถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ.1835 สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1602 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1640 ส่วนด้านหลังของซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลจะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่รวบรวมภาพเขียนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาและยังเป็นที่ฝังศพของบาทหลวงวาลิคนาโน ผู้ก่อตั้งโบสถ์แห่งนี้อีกด้วย

ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล

2. โบสถ์เซนต์ดอมินิค (St.Dominic’S Church) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1587 โดยบาทหลวงนิกายโดมินิกัน เป็นโบสถ์เก่าแก่ของมาเก๊าที่เคยใช้เป็นสถานที่ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ A-Abelha da China หรือ The China Bee ที่เป็นหนังสือพิมพ์โปรตุเกสฉบับแรกบนแผ่นดินจีน และทุกวันที่ 13 พฤษภาคมของทุกปีจะมีพิธีแห่องค์แม่พระฟาติมาจากโบสถ์เซนต์ดอมินิคไปยังโบสถ์เพนญ่า คณะทัวร์มาเก๊าเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

โบสถ์เซนต์ดอมินิค

3. จตุรัสเซนาโด้ (Sanado Square) เป็นจตุรัสเก่าแก่ที่ยังคงความงดงาม แม้เวลาจะผ่านมาอย่างยาวนาน ก่อสร้างโดยช่างผู้ชำนาญชาวโปรตุเกส บริเวณของพื้นใช้สีขาวตัดกับสีดำสลับกันเหมือนรูปเกลียวคลื่นของทะเล ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทัวร์มาเก๊าอีกด้วย


จตุรัสเซนาโด้

4. ค่ายทหารชาวมอร์ (Moorish Barracks) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1874 ใช้เป็นที่รับรองทหารจากเมืองกอ (Goa) ที่ประเทศอินเดียส่งเข้ามาเสริมกำลังให้กองตำรวจมาเก๊า แต่ปัจจุบันเป็นกองบัญชาการของคณะบริหารฝ่ายการเดินเรือของมาเก๊า ตัวอาคารโดดเด่นด้วยเสาและส่วนโค้งที่ได้ผสมผสานวัฒนธรรมของอิสลามเข้าไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ทำให้ค่ายทหารโดดเด่นสวยงามเป็นอย่างยิ่ง


ค่ายทหารชาวมอร์


5. คฤหาสน์ขุนนางจีน (Mandarin’s House) เป็นบ้านของนักประพันธ์จีนผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคฤหาสน์ของขุนนางจีนที่ได้มาอาศัยอยู่ที่มาเก๊า สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1881 เพื่อเป็นบ้านตัวอย่างอยู่อาศัยของชาวจีนโบราณ ภายในประกอบไปด้วยเรือนหลายเรือนที่มีอาณาบริเวณเละลานหน้าบ้าน ตัวบ้านใช้อิฐสีเทาประดับโค้งประตูหรือหน้าต่างระแนงทำจากไม้ซุงประดับด้วยแผ่นกระดานสี่เหลี่ยมกรุมุกด้วยลวดลายอินเดีย เป็นการผสมผสานรายละเอียดความเป็นจีนและตะวันตกได้อย่างลงตัว


คฤหาสน์ขุนนางจีน


6. รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม (Statue of Kun Lam) เป็นการสร้างของโปรตุเกสเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการส่งมอบเกาะมาเก๊าให้แก่จีน จึงทำให้เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ไม่เหมือนกับที่อื่นตรงที่มีลักษณะคล้ายกับพระแม่มารีในศาสนาคริสต์ ภายใต้ฐานดอกบัวนักท่องเที่ยวทัวร์มาเก๊าสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ในการสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ได้

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม

7. วัดอาม่า (A-Ma Temple) เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊า ทางเข้าวัดมีซุ้มประตูแห่งการรำลึก ภายในวัดประกอบไปด้วย หอสวดมนต์ หอแห่งความเมตตา หอเจ้าแม่กวนอิม และมีหินก้อนใหญ่ แกะสลักเป็นรูปเรือประมงเป็นสัญลักษณ์ว่า เทพธิดาแห่งท้องทะเลได้ย่างก้าวขึ้นมาสู่แผ่นดิน วัดนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ทัวร์มาเก๊าให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

วัดอาม่า

โบราณสถานเหล่านี้ เป็นสถานที่สำคัญของเมืองมาเก๊า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด บางท่านอาจจะมาเที่ยวแต่ยังไม่ครบทุกที่ แต่ละที่มีความงดงามแตกต่างกันไป มีโอกาสก็ลองชวนกันไปเที่ยวชม รับรองเก็บภาพสวยงามได้ไม่แพ้ประเทศอื่น

credit : wikimedia.org, visitourchina.com