วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทัวร์ฮ่องกงพาชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม

มาทัวร์ฮ่องกงทั้งที ถ้าพลาดการสักการะเจ้าแม่กวนอิมที่มาเก๊าก็เหมือนมาไม่ถึง อย่างน้อยได้ถ่ายรูปไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่ามาถึงมาเก๊าแล้ว แถมยังได้ภาพออกมาสวยงามสร้างความประทับใจ



รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Statue) อยู่ทางตอนใต้ของฝั่งมาเก๊า ตั้งอยู่ที่ถนน Avenida Dr.Sun Yat Sen โดยยื่นออกไปทางทะเลระยะทาง 60 เมตร อยู่กลางทะเลบริเวณ Quter Har Bour เป็นรูปปั้นที่มีความสูง 20 เมตร อยู่บนฐานดอกบัวสูง 4 เมตร สร้างขึ้นด้วยทองสำริด แตกต่างจากเจ้าแม่กวนอิมทั่วไปตรงที่พระพักตร์คล้ายกับเจ้าแม่มารีของทางศาสนาคริสต์ รูปแบบผสมผสานกันระหว่างจีนกับยุโรป เป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมองค์เดียวที่ไม่ได้หันพระพักตร์ออกทะเล ดูโดดเด่นงดงามจับตาเหมือนอยู่กลางทะเล จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองมาเก๊า





องค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ ประเทศโปรตุเกสได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า เนื่องในโอกาสที่ได้ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน บริเวณทางเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่พื้นจะมีสัญลักษณ์เลข 8 ซึ่งเป็นฮวงจุ้ยแห่งความร่ำรวย ชาวมาเก๊านิยมเข้ามาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อเดินเข้ามาภายในฐานดอกบัวจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งขั้นตอนการสร้างเพื่อให้คณะทัวร์ฮ่องกงได้เข้าเยี่ยมชม และมีการจัดพื้นที่ไว้ให้ผู้ที่ต้องการมาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ภายในฐานดอกบัว





บริเวณรูปปั้นองค์เจ้าแม่กวนอิม จะเป็นถนนเรียบชายฝั่งมีต้นไม้นานาชนิด เป็นสถานที่ร่มรื่นและเป็นสถานที่ัพักผ่อนของชาวมาเก๊า ในช่วงค่ำจะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ เปิดให้บริการท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ลาติน อังกฤษ และจีน นักท่องเที่ยวทัวร์ฮ่องกงท่านใด ที่ต้องการจะมานั่งฟังเพลงตามร้านต่างๆ เหล่านี้ มาได้ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันใหม่ ส่วนพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่กวนอิมจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน (ยกเว้นวันศุกร์) ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น.

การมาเยี่ยมชมองค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมของคณะทัวร์ฮ่องกงแต่ละคณะจะมีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันที่นี่ ความสวยงามขององค์เจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งบรรยากาศบริเวณรอบๆ ทำให้ภาพออกมาถูกใจทุกคน

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559

ทัวร์ไต้หวันแนะนำเรื่องการเตรียมตัว

วันที่ 1 ส.ค. 59 ทางสถานฑูตไต้หวันได้ประกาศยกเลิกวีซ่าไต้หวัน ทำให้กระแสนักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจกับประเทศนี้มากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันนี้ ตั๋วเครื่องบินราคาค่อนข้างถูก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วไปเอง หรือคนที่ซื้อทัวร์ไต้หวันสามารถไปได้ง่ายขึ้น ครั้งนี้จึงขอแนะนำเรื่องการเตรียมตัวไปเที่ยวไต้หวัน โดยสรุปภาพรวมได้เป็น 5 ข้อ ดังนี้




1. สภาพอากาศ 

ไต้หวันเป็นประเทศที่อากาศไปทางร้อนชื้น ช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิจะอยู่ที่ 25-35 องศาเซลเซียส และอาจมีฝนตก ส่วนหน้าหนาวอุณหภูมิจะอยู่ที่ 10-20 องศาเซลเซียส หรือหากแยกตามฤดูกาล จะแบ่งเป็น 4 ฤดู ดังนี้

ดังนั้น ใครที่เดินทางช่วงเดือนไหน ลองเช็คสภาพอากาศให้ดี จะได้จัดกระเป๋าได้ถูกต้องตามฤดูกาล ทั้งนี้ อย่าลืมเช็คน้ำหนักกระเป๋าที่สามารถโหลดได้ของแต่ละสายการบินด้วย (ปกติโหลดได้ 20 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม)

2. เวลา 

ไต้หวันจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ลงเครื่องแล้วอย่าลืมตั้งนาฬิกา


3. ค่าเงิน 

ไต้หวันใช้เงินสกุลไต้หวันดอลล่าร์ โดย 1 ไต้หวันดอลล่าร์ ประมาณ 1.20 บาท การแลกเงินสามารถแลกได้ที่ Super Rich หรือเคาเตอร์ธนาคารในสนามบิน หากใครไปกับทัวร์ไต้หวัน ทางไกด์จะมีให้แลกเช่นกัน




4. ไฟฟ้า 

ไฟฟ้าที่ไต้หวันจะเป็น 110 โวลท์ (แต่เมืองไทยจะเป็น 220 โวลท์) และปลั๊กจะเป็นแบบ 2 ขาแบน ปกติเวลาไปกับทัวร์ไต้หวัน จะแนะนำให้เตรียม Universal Adaptor ไป 1 ชุด และปลั๊กพ่วงไปอีก 1 ชุด เวลาใช้งาน จะได้แปลงเฉพาะที่ขาปลั๊กพ่วง ทำให้มีช่องเสียบใช้งานเพิ่มมากขึ้น และก่อนเสียบใช้งาน ลองเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ดีว่ารองรับโวลท์ที่กำหนดหรือไม่

ขาปลั๊ก และเต้ารับที่ไต้หวัน



Universal Adaptor

ปลั๊กพ่วง

5. ภาษา 

ภาษาราชการจะใช้ ภาษาจีนกลาง ส่วนภาษาท้องถิ่นจะใช้ ภาษาฮกเกี้ยน อย่างไรก็ตาม สำหรับภาษาอังกฤษคนไต้หวันที่ทำงานตามแหล่งท่องเที่ยวจะพอพูดได้ หรือคนที่เป็นข้าราชการระดับสูง หรือนักธุรกิจ จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เช่นกัน


โดยภาพรวม ใครที่กำลังเตรียมตัวไปทัวร์ไต้หวัน หรือจะไปเที่ยวด้วยตนเอง สามารถใช้ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้เตรียมตัวก่อนการได้ทางได้เลย

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ทัวร์เกาหลีเที่ยวชม คลองชองกเยชอน

หลายคนไปทัวร์เกาหลีแต่ยังไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ "คลองชองกเยชอน" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่อยู่ใจกลางกรุงโซล ใกล้ๆ กับพระราชวังหลายแห่ง และสถานที่ช็อปปิ้งยอดนิยม แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลี สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกท่านได้รู้จักก็คือความแปลกใหม่ที่สร้างสรรค์ศิลปะให้ดูโดดเด่นพร้อมกับน้ำใสๆ ที่ไหลไปตามลำคลองดูมีชีวิตชีวาน่าชมยิ่งนัก

ชองกเยชอน (Cheonggyecheon Stream) เป็นคลองโบราณตั้งแต่สมัยราชวงศ์โซซอน มีอายุกว่า 600 ปี มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ไหลผ่านใจกลางเมืองกรุงโซล ตัวคลองถูกปกคลุมด้วยทางหลวงยกระดับ ซึ่งถูกละเลยปล่อยทิ้งมานานทำให้มีสิ่งปฏิกูลมากมายน้ำเริ่มเน่าเสีย


คลองชอนกเยชอนในอดีต


ต่อมาเมื่อปี ค.ศ.2003 Lee Myung-bak ผู้ว่าการกรุงโซลในขณะนั้นได้ริเริ่มบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์ของคลองชองกเยชอน โดยการรื้อทางหลวงยกระดับออกพร้อมทั้งปรับปรุงฟื้นฟูทัศนียภาพให้สวยงามขึ้น ทำให้คลองมีน้ำที่ใสสะอาด กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนของชาวเกาหลีและทัวร์เกาหลี 


บูรณะคลองชองกเยชอนใหม่


ทั้ง 2 ฝั่งคลองจะมีทางเดินเล่น มีกำแพงที่ตกแต่งด้วยศิลปะ ปติมากรรม ประกอบด้วยสิ่งที่น่าสนใจหลักๆ อยู่  2 อย่าง คือ

1. Spring Tower เป็นรูปปั้นปติมากรรมรูปหอยเกลียวสีน้ำเงินแดง สูง 20 เมตร ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ลานคลองแห่งนี้


SPING TOWER (ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามถนน)

ปติมากรรมรูปหอยเกลียว


2. Candlelight Fountain น้ำพุแสงเทียนที่มีความสูงถึง 4 เมตร เป็นน้ำตกเล่นระดับสองชั้น เวลากลางคืนจะเปิดไฟ 3 สีให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น


CANDLELIGHT FOUNTAIN

จุดเริ่มต้นของคลองชองกเยชอน อยู่ที่ลานรูปหอยเกลียวสีน้ำเงินแดง บริเวณนี้มีการจัดกิจกรรมศิลปวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีได้ชื่นชมกัน ตลอดเส้นทางความยาวของคลองนี้จะมีสะพานข้ามคลองที่สำคัญๆ อยู่ 22 แห่ง ทำให้คลองชองกเยชอนสวยงามมากขึ้น ส่วนจุดเริ่มต้นของคลองชองกเยชอนทางด้านฝั่งตะวันตกจะเป็น "ซองกเยพลาซ่า" บริเวณสองข้างทาง จะมีร้านไอศครีม ร้านขนมปัง ร้านกาแฟ และร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์น่ารักๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีให้นั่งเติมพลังก่อนที่จะเดินเล่นต่อไป


บรรยากาศคลองชองกเยชอนช่วงเย็น

ช่วงที่เหมาะสำหรับมาเดินเล่นบริเวณคลองชองกเยชอนจะเป็นช่วงเวลา 5 โมงเย็น แดดไม่ร้อนมากเดินสบายๆ เดินยาวไปถึงช่วงกลางคืน เพราะจะมีการแสดง สีแสง เสียงต่างๆ อันน่าประทับใจ เป็นสีสันของคลองแห่งนี้ คลองชองกเยชอนจึงเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ทุกท่านไม่ควรพลาด



Cr. wikimedia.org, libguides.armstrong.edu

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สายการบินที่ทัวร์ลาวเลือกใช้

ปัจจุบันนี้ทัวร์ลาวได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้น เนื่องด้วยผู้คนสนใจในศิลปะ บ้านเมือง วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ตอบรับกับการมี AEC อีกด้วย ทำให้ผู้คนสนใจที่จะไปท่องเที่ยวประเทศลาวทั้งแบบไปเอง หรือซื้อทัวร์ไป

สำหรับสายการบินที่ทางทัวร์ลาวเลือกใช้ สมัยก่อนจะมีแบบที่ต้องรถไปอุดร แล้วไปต่อไฟลท์ที่นั่น โดยเป็นเครื่องใบพัด หรือมีทั้งแบบที่เป็นสายการบินพรีเมี่ยมอย่างการบินไทย แต่ปัจจุบันนี้ เริ่มมีสายการบินชั้นประหยัด (Low Cost) มากขึ้น โดยที่นิยมจะเป็นของบางกอกแอร์เวย์ส และแอร์เอเชีย ซึ่งจะบินตรงไปลงทั้งหลวงพระบาง และเวียงจันทน์ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อแพคเกจทัวร์ลาวได้ในราคาที่ถูกขึ้น อีกทั้งไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยเหมือนสมัยก่อนด้วย สำหรับไฟลท์ของแต่ละสายการบินมีดังนี้

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (PG)

กรุงเทพฯ (BKK) >>> หลวงพระบาง (LPQ)



หลวงพระบาง (LPQ) >>> กรุงเทพฯ (BKK)



กรุงเทพฯ (BKK) >>> เวียงจันทน์ (VTE)



เวียงจันทน์  (VTE) >>> กรุงเทพฯ (BKK)



ผังที่นั่งบนเครื่องแบบ 3-3




ภาพที่นั่งบนเครื่อง




ข้อมูล ณ วันที่ 21 มิ.ย. 59
อ้างอิง : www.bangkokair.com


สายการบินแอร์เอเชีย (FD)

กรุงเทพฯ (BKK) >>> หลวงพระบาง (LPQ) : FD 1030



หลวงพระบาง (LPQ) >>> กรุงเทพฯ (BKK) : FD 1031



กรุงเทพฯ (BKK) >>> เวียงจันทน์ (VTE) : FD 1040



เวียงจันทน์ (VTE) >>> กรุงเทพฯ (BKK) : FD 1041



ผังที่นั่งบนเครื่องแบบ 3-3




ภาพที่นั่งบนเครื่อง



ข้อมูล ณ วันที่ 21 มิ.ย. 59
อ้างอิง www.airasia.com


ใครที่จะไปเที่ยวกับทัวร์ลาว หรือซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเอง ลองพิจารณาไว้เป็นทางเลือกในการเดินทาง เพื่อให้คุ้มค่ากับราคาและได้รับความประทับใจ
*** ข้อมูลสายการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบในเวบไซต์ของสายการบินนั้นๆ อีกครั้ง ***

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

Pocket Wi-Fi กับทัวร์ญี่ปุ่น

หลายท่านที่เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยตนเอง หรือไปกับทัวร์ญี่ปุ่น แล้วมีความจำเป็นต้องใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะทำงาน ส่งข้อมูล ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว อัพเดต Social หรืออื่นๆ ก็ตาม หากเป็นสมัยก่อนคงต้องเปิดโรมมิ่งไป โดยเปิดใช้แต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายก็แพงเหลือเกิน บางทีลืมปิดสัญญาณ อินเตอร์เน็ตไหลอีก ค่าใช้จ่ายบาน อีกทั้งยังจำกัดจำนวนผู้ใช้งานได้แค่ท่านเดียวต่อเครื่อง ไม่สามารถแชร์กันได้ หรือบางครั้งใช้ Free Wi-Fi ที่โรงแรม สัญญาณไม่ค่อยดี เพราะคนใช้งานเยอะ ต้องมานั่งเล่นที่ล็อบบี้โรงแรม ซึ่งลำบากอีก หรือถ้าซื้อซิมการ์ด ก็กลัวจะตั้งค่าไม่เป็น เงินในซิมก็หายหมด

ในปัจจุบันนี้ มีอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของทัวร์ญี่ปุ่น เรียกว่า Pocket Wi-Fi ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถแชร์สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้อย่างไม่จำกัด พกพาง่าย มีขนาดเล็ก โดย Pocket Wi-Fi 1 เครื่อง สามารถนำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ 4-6 เครื่องเลยทีเดียว วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เหมือนเราเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่บ้านหรือที่ทำงาน เรามาดูกันว่าหน้าตาอุปกรณ์เป็นอย่างไร

Pocket Wi-Fi ที่ทัวร์ญี่ปุ่นนิยมใช้

ขั้นตอนการใช้งานง่ายๆ ดังนี้

1. กดปุ่มค้างไว้เพื่อเปิดเครื่อง (ตามกรอบเส้นปะสีเหลือง)



2. รอให้สัญญาณขึ้น 




3. เชื่อมต่อ Wi-Fi ตามชื่อ Username และ Password ของเครื่องนั้นๆ (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ)


** ข้อแนะนำ หากไม่ได้ใช้งาน ให้กดปิดเครื่อง เพราะหากเปิดเครื่องทิ้งไว้แบตเตอรี่จะหมดค่อนข้างเร็ว ดูได้จากเกจวัดแบตเตอรี่


เกจวัดแบตเตอรี่

หากท่านใดต้องการใช้ Pocket Wi-Fi ท่านสามารถติดต่อตัวแทนในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีหลายเจ้าให้ท่านเลือกใช้บริการ เพียงค้นหาได้ใน google ไม่จำเป็นต้องไปรอเช่าที่ญี่ปุ่น ราคาค่าเช่าเฉลี่ยวันละ 200-300 บาท ขึ้นอยู่กับแพคเกจความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เลือกใช้ ทั้งนี้ ขอแนะนำว่า ลองดูตัวแทนที่มีบริการจัดส่งเครื่อง และรับเครื่องกลับให้กับลูกค้า หรือมีเคาเตอร์รับส่งเครื่องที่สนามบิน และสามารถชำระเงินตอนรับเครื่อง เพียงเท่านี้ ท่านใดที่จะไปเที่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่น จะได้มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างสบายใจ

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ทัวร์เกาหลีพาช็อปปิ้ง

กระแสของเทรนด์เกาหลีเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนเกาหลี โดยเฉพาะ ดารา นักร้อง นักแสดง หรือเครื่องใช้อุปโภคบริโภค รวมไปถึงทัวร์เกาหลี ที่คนไทยนิยมชมชอบต่างพากันหลั่งไหลเข้าไปในประเทศเกาหลี สาเหตุหนึ่งที่คนไทยต้องการไปเกาหลี คือ พาครอบครัวไปช็อปปิ้ง เพราะสินค้ามีคุณภาพราคาถูก แหล่งช็อปปิ้งที่เป็นแพทเทิร์นของทัวร์เกาหลี มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

ตลาดทงแดมุน (Dongdaemun Market) เป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยมากมาย เปรียบเหมือนห้างโซนประตูน้ำบ้านเรา โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน ดังนี้
  • โซนที่ 1 เป็นโซนที่มีร้านค้าขายปลีกและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สินค้าส่วนใหญ่เป็น แฟชั่นเสื้อผ้าที่ทันสมัย เครื่องประดับ เครื่องกีฬา กระเป๋า รองเท้า ของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลี และสินค้านำเข้า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ในโซนนี้พูดภาษาอังกฤษได้

  • โซนที่ 2 เป็นโซนขายส่ง จะขายช่วงกลางคืน ตั้งแต่เวลา 20.00. ไปจนถึงเวลา 05.00. ของวันใหม่ จะขายสินค้าที่ละจำนวนมากๆ ภายในห้างสรรพสินค้ามีร้านค้าขายส่งกว่า 1,200 ร้าน ให้เลือกซื้อหากันอย่างจุใจ



ตลาดเมืองดง (Myeongdong Market) เป็นสถานที่ช็อปปิ้งชื่อดัง ที่มีทัวร์เกาหลีแวะมาไม่ขาดสาย ร้านค้าในย่านนี้เปรียบเหมือนสยามแสควร์บ้านเรา มีร้านค้าทั้งที่ตั้งอยู่ในอาคาร และร้านค้าที่เป็นแผงลอยเรียงรายอยู่ข้างถนน สามารถเดินช็อปปิ้งได้ง่ายเพราะทุกซอยเชื่อมถึงกันหมด ไม่ต้องกลัวหลง ใครที่ตั้งใจมาซื้อเครื่องสำอางค์ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมเครื่องสำอางค์แบรนด์เกาหลีทุกยี่ห้อที่มีสาขาอยู่มากมาย เช่น ETUDE, SKIN FOOD, innisfree แต่ละร้านจะมีพนักงานสาวสวยที่พูดภาษาไทยได้มายืนเชิญชวนและแจกสินค้าตัวอย่างให้ฟรี 


ส่วนเสื้อผ้ามีทั้งแบรนด์ของเกาหลีเองและแบรนด์ดังจากต่างประเทศ เช่นเดียวกับร้านรองเท้า ในเมียงดงจะมีร้านรองเท้าที่มีแบบเก๋ไก๋สไตล์วัยรุ่นก็อยู่ในย่านนี้เช่นกัน ส่วนตามแผงลอยก็จะมีอุปกรณ์ตกแต่งมือถือ กระเป๋า รองเท้า ถุงเท้า นาฬิกา เข็มขัด ของกิ๊บเก๋แปลกๆ ที่ไม่มีขายในห้าง ร้านค้าตามแผงลอยสามารถต่อรองราคาได้ตามความพอใจ








ด้วยเวลาที่มีจำกัด คณะทัวร์เกาหลีจะได้ช็อปปิ้งแค่สองแห่งนี้เท่านั้น แต่ก็สามารถละลายเงินวอนของนักท่องเที่ยวให้หมดได้โดยไม่รู้ตัว จะเห็นได้ว่าเกาหลีสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากด้วยแหล่งช้อปปิ้งนั่นเอง