วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทัวร์เกาหลีพาเยือนเมืองเคียงจู

เคียงจู (Gyeongju) เป็นเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรซิลลา (Shilla) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 อาณาจักรโบราณที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลี เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ที่มีความสำคัญมาก เป็นอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองก่อนที่จะล่มสลายไป โดยทิ้งร่องรอยความเจริญไว้ให้ชาวโลกได้ดูและศึกษา อีกทั้งยังมีโบราณวัตถุและโบราณสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย มีสิ่งก่อสร้างและสุสานโบราณต่างๆ กระจายอยู่ทั่วเมือง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกและได้รับการยกย่องให้เป็นเมือง "พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง" จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของทัวร์เกาหลี วันนี้จึงขอแนะสถานที่ในเมืองเคียงจูให้ท่านได้รู้จักดังนี้

อุทยานทูมูลิ (Tumuli Park) หรือสุสานหลวง เป็นสุสานขนาดใหญ่อยู่ในเขตพระราชวังโบราณของเมืองเคียงจู รวมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเคียงจูไว้รวมกันเกือบทั้งหมด นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีสามารถเดินเที่ยวชมต่อเนื่องกันได้ภายในวันเดียว โดยสุสานหลวงหรือทูมูลิ ปาร์ค มีสุสานทั้งหมด 23 แห่ง สุสานที่น่าสนใจมีอยู่ 3 แห่งคือ
  1. สุสาน Choenmachong หรือสุสานม้าสวรรค์ เป็นสุสานเดียวที่เปิดให้เข้าชมภายในโดยสร้างอุโมงค์เป็นทางเข้า-ออก และจัดแสดงสิ่งของที่พบในสุสานให้ชม เช่น มงกุฎทองคำ
  2. สุสานกษัตริย์ (Michu) องค์ที่ 13 ของอาณาจักรซิลลาตอนต้น
  3. สุสาน Hwangnam Daechong เป็นสุสานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสูงถึง 20 เมตร หรือเท่ากับตึก 3 ชั้น

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเคียงจู (Gyeongju National Museum) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีไม่ควรพลาด เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมมรดกวัฒนธรรมทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของเมืองเคียงจูไว้เป็นจำนวนมาก มีอาคารทั้งหมด 4 หลัง ได้แก่
  1. อาคารจัดการแสดงทางโบราณคดี (Archeology Hall)
  2. อาคารจัดการแสดงเกี่ยวกับสระอันอั๊บจี (Anapji Hall)
  3. สวนจัดแสดงกลางแจ้ง (Outdoor exhibition in the museum garden)
  4. หอศิลป์ (Art Hall)

หอดูดาวชมซงแด (Cheomseongdae Observatory) เป็นอาคารโบราณรูปร่างคล้ายขวดเป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดในซีกโลกตะวันออก โดยใช้หินแกรนิตในการก่อสร้างมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.17 เมตร สูง 9.4 เมตร มีการเจาะช่องไว้ดูการเคลื่อนไหวของดวงดาวและสภาพอากาศ



สระอันอั๊บจิและวังโบราณ (Anapji Pond) สระแห่งนี้อยู่ห่างจากหอดูดาวเพียงเล็กน้อย แต่เดิมเคยเป็นสถานที่พักผ่อนของพระราชวงค์ มีการขุดค้นพบวัตถุโบราณเป็นจำนวนมากที่ก้นสระและได้นำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจูไว้ให้นักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีได้ชมกัน


ป่าเกเยอริม (Gyerim Forest) หรือ ป่าไก่ (Chicken) เป็นสถานที่พักผ่อนและดื่มด่ำกับบรรยากาศ ในบริเวณนี้มีศาลาแบบโบราณ 1 หลัง มีทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน


ถ้ำช็อคบิงโก (Seokbinggo Stone Ice Storage) เป็นถ้ำเล็กๆ ที่เจาะเข้าไปในเนินเขาข้างในบุด้วยหินปูนเพื่อให้เก็บความเย็นได้ เป็นถ้ำที่ใช้เก็บน้ำแข็งในยุคโบราณ มีประตูเหล็กปิดอยู่ไม่ให้เข้าไปชมภายใน แต่สามารถชะโงกดูตรงประตูเหล็กได้



วัดบุลกุกซา (Bulguksa Temple) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 535 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนแห่งธรรมะ โครงสร้างของวัดเป็นแบบโบราณสไตล์เกาหลี มีโบสถ์ขนาดเล็กอยู่ตรงกลางและเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน ซึ่งห้ามนักท่องเที่ยวทัวร์เกาหลีถ่ายรูป บริเวณโดยรอบจะเป็นวิหารสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นที่เก็บสิ่งของต่างๆ มีเจดีย์ Seoktap กับเจดีย์ Debotap ตั้งอยู่ที่ลานรอบโบสถ์ วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1995 ถ้าใครไปเที่ยวช่วงดอกซากุระบานจะเห็นรอบๆ วัดเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่งสวยสดงดงามมาก เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม



ถ้ำซ็อคคูรัม (Seokguram Grotto) ตั้งอยู่บนยอดเขาโทฮัมซาน (Mount Tohamsan) สร้างโดยการนำก้อนหินแกรนิตขึ้นไปวางทับซ้อนกันจนกลายเป็นถ้ำ เวลาผ่านไปทำให้สภาพกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติเหมือนถูกหินถล่มลงมาทับ ภายในมีพระศากยมุนีที่สลักขึ้นจากหินแกรนิตสีขาว ประดิษฐานอยู่ ล้อมรอบด้วยพระโพธิสัตว์และเทพยดา ทางประตูเข้าถ้ำจะมีป้ายหินสลักชื่อวัดที่บอกชัดเจนว่าที่นี่เป็นมรดกโลก



วันนี้ท่านได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานหลายแห่ง หวังว่าการมาเที่ยวเมืองเคียงจูจะทำให้ท่านประทับใจและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แปลกๆ กลับไปเล่าให้ลูกหลานฟัง 


Credit : panoramio.com , wikimedia.org , topicsinkoreanhistory.com , tripadvisor.com , tong.visitkorea.or.kr

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น